อย่างพวกเรานี้ อยู่ในโลกมนุษย์ก็เป็นที่อยู่ของมารเช่นเดียวกัน มีโทษภัยเยอะแยะในโลกมนุษย์เรานี้นะครับ โทษภัยที่มากมายในโลกมนุษย์นี้ก็มีตั้งหลายแบบหลายอย่าง เช่น กิเลสนี่ก็เป็นโทษเป็นภัย เราเป็นผู้เป็นคน เป็นคนดีๆ อยู่ พอกิเลสเกิดขึ้นก็เลวเลย อย่างนี้นะ กิเลสมีโทษมาก ถ้ามีปัญญาก็จะมองเห็นกิเลสเป็นโทษ ในโลกนี้ ไม่ใช่กิเลสเราคนเดียว กิเลสคนอื่นด้วย ตอนไม่มีกิเลสก็ดูเป็นผู้เป็นคนอยู่ พอกิเลสเกิดขึ้น ก็เลิกพูดถึงคนเลย เป็นสัตว์ชนิดโน้นเป็นสัตว์ชนิดนี้กันไป บางครั้งก็ทำทุจริตต่างๆ นี้ก็เป็นโทษภัยของการอยู่ในโลก โทษภัยของกิเลส ทุจริตต่างๆ ก็มีโทษมาก

เป็นคนอยู่ดีๆ ก็ไปทำทุจริต ก็เหมือนกับแย่งกันตกอบายแล้ว อย่างพวกเราก็คงจะเห็นชัดอยู่ แม้แต่คนที่มีบุญมากๆ ก็ไม่อาจที่จะช่วยได้ ทำบุญมาเยอะขนาดไหน ก็ไม่พอที่จะทำให้เลิกทำทุจริต ไม่พอที่จะหมดกิเลส ไม่พอที่จะปิดอบายได้ เป็นคนมีบุญเยอะ เกิดมาก็มีทรัพย์สินเงินทองมากมาย ทำชั่วให้เราเห็นกันเยอะแยะ หรือทำบุญมาเยอะแยะ แล้วเกิดมาหน้าตาสวยงาม อย่างหลายๆ ท่านในที่นี้ก็ดูสวยนะ เขาดูไม่สวย เราก็ดูตัวเองเอาก็แล้วกันนะ ดูให้มันสวย ดูเอาเองนั่นแหละ ที่เกิดมาสวยอย่างนี้ก็เป็นเพราะผลของบุญ ทำให้หน้าตาสวย แต่สวยแล้ว กิเลสก็เยอะเหมือนเดิม บางทีก็เอาหน้าตามาหลอกกันนะ บุญที่มีเยอะขนาดนั้นก็ไม่อาจจะช่วยให้หมดจากกิเลสได้ ไม่อาจช่วยให้ข้ามพ้นอบายได้ ดีไม่ดี เดี๋ยวสักหน่อยก็ไปทำทุจริต ด่ากันบ้าง กระแหนะกระแหนกันบ้าง สักหน่อยก็ตกอบายกันอย่างนี้ กิเลสเป็นโทษภัยของโลก ทุจริตต่างๆ กรรมที่ได้ทำเอาไว้แล้วทั้งดีและไม่ดีก็ติดตามคอยส่งผล โดยเฉพาะกรรมไม่ดีนี่ ถ้าตามมาทันเมื่อไรก็ถล่มหนักเลยทีเดียว อย่างนี้นะครับ

 

จากหนังสือ "สูตรโสดาบัน เล่ม 1"

โดยอาจารย์ สุภีร์ ทุมทอง

เรียบเรียงจากคำบรรยายในหัวข้อ “สูตรโสดาบัน” 

ที่ ห้องเอกายนมรรค อาคารมหพันธ์ บริษัท มหพันธ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ จำกัด (มหาชน)